The Nobel Prize Winner in Cannes
Orhan Pamuk as a Jury in Cannes Film Festival 2007
เคยไหว้ครูถึงเขากันไปแล้วใน Bookvirus เล่ม 1 (2547/2004) แต่เมื่อได้ข่าวว่า ออร์ฮาน พามุค ได้รางวัลโนเบลในปี 2006 ก็คงต้องนับเป็นเรื่องดีที่มาเร็วเกินคาด นี่ยิ่งทำให้หนังสือปกแข็งกับละครวิทยุของพามุคที่ผมอัดไว้กลายเป็นของสะสมมีราคาขึ้นมาทันที (อ้อ..... แต่ลืมไปว่านี่เมืองไทย)
หากใครอ่านนิยายของเขาเรื่อง The New Life คงพอเห็นได้ว่า พามุค นั้นสนใจในภาพยนตร์อยู่เอาการ จากลักษณะที่ตัวละครหมกมุ่นกับนิยายวิเศษที่ได้อ่าน บวกกับหนัง (น้ำเน่า) ที่ตัวละครหนุ่มสาวได้ชมบนรถประจำทาง ครั้นพอค้นดู เอ้า เขาเคยเขียนบทหนังมาก่อนเสียด้วยซ้ำ
นั่นคือเรื่อง The Secret Face (Gizli Yüz / หนังปี 1991) ที่กวาดรางวัลงานเทศกาลหนังขนาดย่อยทั้งในตุรกี และยุโรปมาแล้วมากกว่า 20 รางวัลทั่วโลก และยังได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลที่เทศกาลหนังเวนิสมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่หลังจากนั้นก็เงียบหายไป ไม่ทราบว่าได้มีโอกาสฉายนอกประเทศตุรกีอีกบ้างไหม
ว่ากันว่าหนังสร้างจากพล็อตเรื่องย่อยส่วนหนึ่งจากนิยาย The Black Book ของ พามุค เอง และที่สำคัญก็ตรงที่เขาเขียนบทหนังเองนี่แหละ จากหลายเสียงบนเว็บดูเหมือนว่าหนังจะเนิบนาบในสไตล์ประมาณ มิเคลันเจโล่ อันโตนีโอนี่ หลายคนคงเบื่อกับสไตล์หนังประเภทนี้แล้ว แต่คนที่ได้ดูหนังยุคใหม่สไตล์ โหวเซี่ยวเฉียน, ไฉ่มิ่งเหลียง หรือ เอ็ดเวิร์ด หยาง คงไม่ต้องขยาดอะไร
ในงานเทศกาลหนังนานาชาติเมืองคานส์ ปี 2007 พามุค ได้รับเชิญเป็น 1 ในคณะกรรรมการที่อุดมด้วยคนดังอย่าง
สตีเฟ่น เฟรียร์ส เจ้าของผลงานกำกับที่เพิ่งผ่านสายตาชาวไทยไปไม่นานอย่าง The Queen, Dirty Pretty Things
มาเรีย เดอ มาไดรอส นักแสดงสาวชาวโปรตุเกสที่เคยแสดงประกบ บรู๊ซ วิลลิส ใน Pulp Fiction
โทนี่ คอลเล็ตต์ นักแสดงสาวจาก Japanese Story, Little Miss Sunshine, About A Boy
ซาร่าห์ พอลลี่ย์ นางเอกสุดสวยจาก Exotica, My Life without Me, Dawn of the Dead และ Don’t Come Knocking ปัจจุบันเธอเป็นผู้กำกับแล้ว (เธอทำหนังจากเรื่องสั้นของ Alice Munro)
จางมั่นอี้ หมวยอินเตอร์ ใน Comrades, A Love Story, Irma Vep, Clean และ A Heroic Trio (สวยประหาร)
มาร์โก้ เบลล็อคโค่ ผู้กำกับคนดังแห่งยุค 60 เจ้าของผลงาน Fists in the Pocket, Good Morning Night และหนังอื้อฉาว Devil in the Flesh
มิเชล ปิกโกลี่ เจ้าพ่อแห่งนักแสดงฝรั่งเศสที่เล่นหนังคลาสสิกของฝรั่งเศสมาตลอดหลายยุคสมัย เช่น Contempt, I Want to Go Home, Mauvais Sang และ Belle Toujours
อับเดอรามาน ซิสซาโก้ ผู้กำกับแอฟริกัน เจ้าของงานเช่น Bamako และ Life on Earth
และเมื่อถึงบทสรุปของเทศกาล พามุค และคณะกรรมการทั้งหมดก็ลงความเห็นเลือก
4 Months, 3 Weeks and 2 Days หนังจากโรมาเนียให้เป็นผู้ชนะ
หนังเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องที่ 3 ของ คริสเตียน มุนกู วัย 39 ปี ที่ลงทุนน้อยมาก ด้วยเงินเพียง 8 แสนเหรียญสหรัฐ ว่ากันว่าสร้างจากเรื่องจริงในปี 1987 ที่เกี่ยวกับ 2 นักศึกษาสาวที่ทำแท้งเถื่อน เพราะช่วง 20 ปีสุดท้ายของคอมมิวนิสต์นั้น การทำแท้งเถื่อนนั้นคร่าชีวิตคนโรมาเนียไปถึง 5 แสนคนทีเดียว
ออร์ฮาน พามุค กล่าวว่า ““หนังโรมาเนียที่ได้รางวัลปาล์มทองนั้นเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ ชาวโรมาเนียภูมิใจได้เลยกับนักทำหนังคนนี้ หนังเรื่องนี้ให้ความสุขทุกนาทีขณะที่ดู มันมีค่ามากเหลือเฟือให้ค้นพบ ทั้งในแง่โครงสร้างและเนื้อหา กรรมการทุกคนพออกพอใจ และไม่ต้องเสียเวลาคุยอะไรกันมากเลยในการตัดสินใจมอบรางวัลปาล์มทองคำให้เขา”
“สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอกว่าผมไม่ได้ทำงานในวงการหนัง ผมแค่เป็นนักเขียน ผมอยากจะขอขอบคุณคนในวงการทุกคนที่ทำให้ผมรู้สึกสบายใจ......มาตรฐานเดียวในการตัดสินหนังก็คือ เชื่อเสียงสำนึกและรสนิยมของตัวเอง กรรมการทุกคนต่างก็แสดงออกถึงความเห็นอย่างอิสระและเป็นประชาธิปไตย ซึ่งเป็นเรื่องวิเศษเหลือเกิน เราถกเถียงเรื่องหนังแต่ละเรื่องกันอย่างเข้มข้น และตัดสินใจเลือกงานที่ดีที่สุด ขอแสดงความยินดีให้กับประเทศโรมาเนียสำหรับผลงานที่น่าทึ่งยิ่งนี้”
(ภาพประกอบที่เมืองคานส์ คือภาพของ ออร์ฮาน พามุค, ซาร่าห์ พอลลี่ย์ จางมั่นอี้ และโทนี่ คอลเล็ตต์)
No comments:
Post a Comment