3/26/11

The Master and Margarita - มาสเตอร์กับมาร์การิตา- ฉบับแปลไทยไชโย


ข่าวจากพี่แป๊ดว่า วรรณกรรมแปลคลาสสิกของคุณ นพดล  เวชสวัสดิ์ เรื่อง มาสเตอร์กับมาร์การิตา พิมพ์เสร็จแล้ว ตอนนมีขายที่บูทระหว่างบรรทัด

คนแต่งเล่าเรื่องตอนที่พระเยซูจะถูกตรึงกางเขน สลับกับเหตุการณ์ปัจจุบัน (สมัยนั้น) ที่มีตัวละครแปลก ๆ อย่าง แมวดำร่างยักษ์สูบซิก้าร์โผล่เข้ามาในเมือง ทำให้เกิดปริศนาลึกลับ

ข้างล่างอ้างจาก ประวัติคนเขียน Mikhail Bulgakov ในหนังสือ BookVirus 01 - หนังวรรณกรรม ของ สนธยา ทรัพย์เย็น

B = Bulgakov
มิคาอิล บัลกาคอฟ
The Master and Margarita (Maestro I Margarita) (Majstor I Magarita)
ยูโกสลาเวีย/อิตาลี่, 1972, 100 นาที
Aleksander Petrovic กำกับ
ผู้กำกับเขียนบทร่วมกับ Barbara Alberti, Amedeo Pagani จากนิยายชื่อเดียวกันของ Mikhail Bulgakov

ละครเรื่อง ปอนตุส ปิลาต กำลังเตรียมซ้อมใหญ่ที่โรงละครแห่งหนึ่งในมอสโคว์ แต่เจ้าของโรงละครพยายามเกลี้ยกล่อมให้นักเขียนบทละครหนุ่ม นิโคไล มาคซูดอฟ หรือที่รู้จักกันในนาม ‘เดอะ มาสเตอร์’ ยกเลิกละครของเขาเสีย นั่นย่อมไม่ง่ายเลย เพราะ เดอะมาสเตอร์ นั้นมีเสียงสนับสนุนแสนสวยคือ มาการิตต้า แฟนของเขาและท่านศาสตราจารย์ โวลันด์
นิยายคลาสสิกเรื่องนี้เป็นงานเล่มสำคัญของนักเขียนชาวรัสเซีย มิคาอิล บัลกาคอฟ (1891-1940) ผู้เคยมีผลงานนิยายเรื่องแรก The White Guard มาตั้งแต่ทศวรรษ 20 แล้ว แต่เขาไม่เคยประสบความสำเร็จมากมายเหมือนนักเขียนดังคนอื่น ๆ เพราะรัฐบาลโซเวียตมักสั่งแบนละครและหนังสือของเขาบ่อย ๆ จนกระทั่งมีการพิมพ์ครึ่งแรกของเรื่อง The Master and Margarita ทยอยลงนิตยสารรายเดือนชื่อ Moskva เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 1966 โลกจึงรู้ว่านักเขียนผู้นี้ซ่อนผลงานมาสเตอร์พีซชิ้นหนึ่งเอาไว้มาเกือบ 30 ปีนับตั้งแต่เขาตายในปี 1940


 บัลกาคอฟ รู้มาตลอดว่านิยายเรื่องนี้ของเขาไม่มีวันจะได้พิมพ์ในยุคของสตาลิน แต่เขาก็เฝ้าอุตส่าห์เขียน แก้ไข ปรับปรุงงานนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อนักอ่านที่เขาจะไม่มีวันได้เห็นหน้า อีกทั้งเผาต้นฉบับไปครั้งหนึ่งด้วยความท้อแท้ก็ยังเคย กว่าจะถึงวันที่งานตลกร้ายในสไตล์เหนือจริงเรื่องนี้ได้กลายเป็นงานครองใจให้นักอ่านเล่าขานกันไม่รู้จบ
 ผู้กำกับชาวยูโกสลาเวีย อเล็คซานเดอร์ เพโตรวิค เคยทำเรื่อง I Even Met Happy Gypsies (1967) ที่ประสบความสำเร็จได้แชร์รางวัล Special Jury Prize ที่เมืองคานส์ หนังเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมของชาวยิปซีเรื่องนี้ส่อแววการผสมเรื่องแนวสมจริงเข้ากับฉากแฟนตาซีไว้แล้ว ก่อนนำเขามาสู่ It Rains in My Village (1969) และ The Master and Margarita ที่รับแรงบันดาลใจจากหนังสือของนักเขียนใหญ่ชาวรัสเซีย 2 คน คือ ฟีโอดอร์ ดอสโตเยฟสกี้ (เรื่อง The Possessed) และ มิคาอิล บัลกาคอฟ ตามลำดับ โดย เพโตรวิค นั้นรู้ดีว่าการทำหนังจากงานระดับช้างเช่นนี้เป็นเรื่องยากมาก เขาจึงเลี่ยงหยิบเพียงตัวละครและสถานการณ์บางส่วนในหนังสือของ บัลกาคอฟ มาดัดแปลง


 ตัวเรื่องเดิมของ บัลกาคอฟ เล่าเรื่องสลับไปมาระหว่างเมืองมอสโคว์กับเมืองเยรูซาเล็มในศตวรรษที่ 1 เรื่องเริ่มที่มอสโคว์ด้วยการปรากฏกายของซาตานตนหนึ่งในคราบของชาวต่างชาติ โดยมีคู่หูเป็นมือสังหารที่ไว้หนวดขนไก่แถมใส่แว่นตาที่เสียแล้ว กับแมวดำพูดได้ตัวหนึ่งซึ่งชอบเล่นหมากรุกและดื่มว้อดก้า ทั้งสามก่อกวนประชาชนทั่วทั้งเมืองจนอลหม่านไปทั่ว แต่เหตุผลหลักในการมาเยือนของพวกเขาอยู่ที่ตัว เดอะ มาสเตอร์ นักเขียนหนุ่มที่เขียนนิยายเกี่ยวกับ ปอนตุส ปิลาต (ข้าหลวงโรมันที่ปฏิเสธไม่ตัดสินการสอบสวนพระเยซู) แต่ผลงานไม่ทันได้พิมพ์ก็ไปอยู่ในโรงพยาบาลบ้าเสียแล้ว โชคดีที่ มาการิต้า แฟนสาวผู้จงรักภักดีของเขามานั่งอ่านต้นฉบับหนังสือให้เขาฟัง เธอยอมทำทุกอย่างให้คนรัก แม้แต่การรับเป็นเจ้าภาพให้กับงานเลี้ยงของพวกปีศาจ

3/24/11

รสหญิงปรุงแกงเผ็ด

นี่เพิ่งไปดูละคร “รสแกง” (Taste of Curry) ของ จารุนันท์ พันธชาติ ที่ เดโมเครซี่ เธียร์เตอร์ มา 2 รอบ รอบสองดูกับ 4 หนุ่มนักทำหนังโดมิโน่ฟิล์ม และพี่ สมเกียรติ์ วิทุรานิช (October Sonata) เยี่ยมยอดตามมาตรฐาน บี-ฟลอร์อีกเช่นเคย และคราวนี้ได้ดูกลุ่มนี้แสดงในลีลาเบาสบายแปลกตา เสียดายถ้าคนมีความสามารถแบบชาวคณะละคร บี-ฟลอร์ จะไม่ได้มีโอกาสเป็นที่รู้จักของคนดูละครเวที-ละครทีวี-หนังจอเงิน ให้มากกว่านี้อีก โดยเฉพาะกับนักแสดงแบบ ดุจดาว วัฒนปกรณ์ และ อรอนงค์ ไทยศรีวงศ์ ต่อให้ใครบอกว่า สินจัย เยี่ยมยอดเท่าไรก็เหอะ แต่ถ้ามีคนไทยคนไหนทำหนังเน้นการแสดงขั้นเทพของ John Cassavetes ล่ะก็ 2 สาวไทยนี่เท่านั้นที่จะรับมือไหว เรื่องพลังการแสดงเข้ม ๆ นั้นหายห่วง ดุจดาว คงจะเล่นบทเจ้าแม่ไฟแรงสูงประมาณ Isabelle Huppert หรือ Isabelle Adjani ของฝรั่งเศส (หรือ Margit Christensen, Sabine Timoteo ของเยอรมัน) และถ้าประกบ กับ และ อรอนงค์ ในบทหักขั้วเฉือนคมหญิงแบบ The Bitter Tears of Petra Von Kant (ซึ่ง จุ๋ม สุมณฑา สวนผลรัตน์ เคยแสดง) ก็คงแม่นมั่น 

ว่าไปแล้วน่ามีใครนำ 3 สาวนี่มาเล่นหนังโดยเอามาเล่นเป็นพี่น้องแบบ Three Sisters ของ Chekhov (เคยดูฉบับหนังปี 88 ชื่อ Love and Fear ของ มาเกอเร็ตเต้ ฟอน ทร็อตต้า ที่ Fanny Ardant, Valeria Golino กับ Greta Scacchi แสดงเป็น 3 ใบเถา)

อยากให้มีคนนำความ intimate ของหนังมารวมกับการแสดงขั้นเทพของคนละครเวที (ยังไม่เคยมีหนังแบบนี้เลยนี่นะ) ต้องคิดเขียนบทให้สาว ๆ พวกนี้ได้แสดง เป็นเรื่องแบบวงชีวิตผู้หญิงจริง ๆ ไม่ต้องมีตัวแสดงชายเลยก็ได้ในเรื่อง พระเอกจำเป็นเหรอ ชีวิตพระเอกผู้ชายก็มีในหนังทั่วไปมากอยู่แล้ว คอนเสิร์ตบอยแบนด์ อคาเดมี่ก็ดูไปสิ โปสเตอร์หนังก็ขายแต่หนุ่ม ๆ หรือ แมน ๆ ขายได้จนแก่ บรูซ วิลลิส, คลิ้นท์ อีสต์วู้ด น่าเบื่อจริง ๆ แล้วผู้หญิงแท้กับหญิงรักหญิงก็ต้องดูหนังแอ็คชั่นตามแฟน ชิมิ ชิมิ

ไม่ต้องกลัวเรื่องการแสดงใหญ่ของคนละคร เพราะคนแสดงเขามีเซ้นส์ สามารถเพิ่ม-ลดให้เล็กลงได้ อยากให้หนังของพี่ สมเกียรติ์ เป็นจริง เผื่อจะได้เชิญ ดุจดาว มาเล่น

3/23/11

Filmvirus ฉบับลูกหลง - อนุทินรัก แอร์ฤกค์ โรห์แมร์ (โดย กัลปพฤกษ์)

แม้จะไม่มีความตั้งใจจะให้กำเนิด ฟิล์มไวรัส เล่มใหม่ในเวลาอันใกล้ แต่แล้วก็เกิด ฟิล์มไวรัส ฉบับพิเศษนี้ ฉบับอนุทินรัก แอร์ฤกค์ โรห์แมร์ – อำลาการจากไปของผู้กำกับอารมณ์ละเมียดซึ่งทำหนังละเอียดอ่อนลึกซึ้งอย่างที่หาตัวจับยากที่ในโลกนี้มีเพียงน้อยคน

ดำเนินการจัดทำโดย กัลปพฤกษ์ แทบทุกกระบวนการแต่เพียงผู้เดียว พิมพ์ในระบบดิจิตอล จำนวนจำกัดมาก รับรองขายแบบไม่ได้กำไร มีแต่เข้าเนื้อล้วน ๆ 

ออกแบบปกโดย นฆ ปักษนาวิน

“อย่าบอกใครว่ารู้จักความรัก
ถ้ายังไม่เคยดูหนังของ Eric Rohmer”

กัลปพฤกษ์


อนุทินรัก แอร์ฤกค์ โรห์แมร์ 
เขียนโดย กัลปพฤกษ์

วางขายเฉพาะในงานหนังสือ ระหว่าง 25 มีนาคม-6 เมษายน 2554
ที่บู้ทระหว่างบรรทัดเท่านั้น - ไม่มีขายตามร้านหนังสือทั่วไป

Elizabeth Taylor ตาย


Elizabeth Taylor อดีตดาราในหนังดังอย่าง Giant ที่เธอแสดงนำกับ James Dean และ Rock Hudson

หญิงเจ็ดผัว ผู้เข้าอกเข้าใจและปกป้อง พระเอกเกย์อมทุกข์ Montgomery Clift และ Michael Jackson

คลีโอพัตรา เคยฉายที่โรงหนัง ศาลาเฉลิมไทย 

แจกฟรี ลิปสติก คาเนโบ เฉพาะท่านสุภาพสตรีผู้ชมภาพยนตร์

ซิเซโด้ เครื่องสำอางที่ยิ่งใหญ่และแพร่หลายที่สุดในญี่ปุ่น และภาคตะวันออกไกล อภินันทนาการของขวัญล้ำค่าราคาแพง ชุดครีมแต่งหน้า 3 ใบเถา ราคา 30 บาท แจกฟรีให้กับท่านสุภาพสตรีที่เข้าชมภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก (เฉพาะที่นั่งชั้นบน) มีจำนวนจำกัดเพียง 3,000 ชิ้นเท่านั้น

3/22/11

ปฏิบัติการหนังโดมิโน่ 4 สหาย (Domino Film Experiment)

ปฏิบัติการหนังโดมิโน่ 4 สหาย
Domino Film Experiment

โครงการหนังฟิล์มไวรัส

โปรดิวเซอร์ : ภาณุ อารี (The Convert และ Baby Arabia)
ที่ปรึกษา: อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล, ก้อง ฤทธิ์ดี, สมเกียรติ์ วิทุรานิช
คณะกรรมการบริหาร : สุชาติ สวัสดิ์ศรี, แดนอรัญ แสงทอง, อุทิศ เหมะมูล
เจ้าของโครงการ : สนธยา ทรัพย์เย็น (Filmvirus)

โครงการทำหนังแบบ “โดมิโน่” เปรียบได้กับการวิ่งหนังส่งไม้ 4 คูณ 100 โดยในแต่ละเรื่องนั้น เราจะเชิญนักเขียนผู้มีคุณวุฒิครั้งละ 1 ท่านเข้ามากำหนดโจทย์ ตัวละคร หรือโครงเรื่องคร่าวๆ ให้นักทำหนังสั้น 4 คน เข้ามาผลัดกัน แต่ง- ต่อ- เติม เกิดเป็นหนังสั้นความยาวตอนละประมาณ 30 นาที จำนวน 4 ตอนที่มีความสัมพันธ์รับส่งระหว่างกลุ่มตัวละครชุดเดียวกัน และเมื่อผนวกกิ่งก้านแตกต่างทั้งหมดจะเสริมเติมให้ได้หนังที่มีลำต้นมั่นคงเป็นเอกภาพ ความยาวเท่าหนังปกติประมาณ 2 ชั่วโมง 

รายละเอียดเพิ่มเติมที่ - Domino Film Experiment - ปฏิบัติการหนังโดมิโน่ 4 สหาย http://dominofilm.blogspot.com/

3/20/11

Arizona Dream (อริโซน่า ดรีม) Johnny Depp ผนึกพลังกับ Emir Kusturica

จอห์นนี่ เด็ปป์ กับ Arizona Dream (อริโซน่า ดรีม) 

สมัยยุค 80 และ 90 Emir Kusturica ถือเป็น อภิชาติพงศ์ หรือคนทำหนังเบอร์หนึ่ง นอกจากเบิ้ลรางวัลปาล์มทอง 2 ครั้ง ยังเต็งหนึ่งบนเวทีเวนิสและเบอร์ลินอีกด้วย 

ใน Arizona Dream เขาโชว์ลีลากำกับบ้าบอเหนือชั้น ทำให้คนดูได้เห็นบทหลุดโลกของ Lili Taylor, Faye Dunaway, Vincent Gallo และ Jerry Lewis (ต้นฉบับหนังเรื่อง The Nutty Professor)

ซาวด์แทร็คเจ๋งมาก แต่งทำนองโดยคนทำเพลงประจำของ คุสตูริก้า (และมี Iggy Pop มาร้อง 3 เพลง)

ต่อมา พอ จอห์นนี่ เด็ปป์ กำกับเรื่อง The Brave ก็เอาตากล้องของ คุสตูริก้า ไปถ่าย 

หนังฉบับเต็มยาว 142 นาที เวอร์ชั่นที่ฉายในยุโรปจะยาวกว่าของที่ฉายในอเมริกา ลืมเช็คไปว่าดีวีดีนี้เวอร์ชั่นไหนแน่ แต่เมื่อก่อนเคยดูนานแล้วก็รู้สึกว่ายาวเท่า ๆ กัน

แค่ 69 บาท (เสียดายแผ่นลิขสิทธิ์แปลซับไทยมั่ว)

3/17/11

Japan and I “ญี่ปุ่นในกาลครั้งหนึ่ง” ผลงานเล่มใหม่ในเครืออัมรินทร์ของ อุทิศ เหมะมูล


หนังสือ Japan and I “ญี่ปุ่นในกาลครั้งหนึ่ง” ผลงานเล่มใหม่ในเครืออัมรินทร์ของ อุทิศ เหมะมูล (ลับแล แก่งคอย) เกี่ยวกับประสบการณ์รับเชิญไปอภิปรายและท่องญี่ปุ่น ใครเป็นแฟนนักเขียนซีไรต์ ผู้ช่ำชองเรื่องศิลปะ วรรณกรรม และหนัง อย่าลืมหาเชยชม ที่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ เริ่ม 25 มีนาคม-6 เมษายน 

สำหรับใครที่รออ่านงานวรรณกรรมชิ้นใหม่ของ อุทิศ หนุ่มมากพลังที่เป็นตัวแทนชั้นแนวหน้าของคนรุ่นเขา ที่จริงนิยายเรื่องใหม่ของ อุทิศ ที่เกี่ยวกับเหลื่อมวรรณกรรมข้ามยุคสมัยนั้น แต่งเสร็จนานแล้วตั้งหลายเดือน โดยเจ้าตัวบอกกับ bookvirus ว่า “ลับแล, แก่งคอยจะเหมือนงานเด็ก ๆ ไปทันทีถ้าเทียบกับเล่มใหม่นี้”  

แต่น่าเสียดายกำหนดตีพิมพ์อาจเร็วสุดก็ปลายปี และมีโอกาสสูงมากที่จะต้องรอพิมพ์ถึงปีหน้า แต่ระหว่างนี้ไม่ต้องห่วง หนุ่มไฟแรงของเราได้เริ่มแต่งเรื่องใหม่แล้วด้วยซ้ำ  

3/10/11

รวมมิตรฉายหนัง FilmVirus Shorts: Wildtype 2011: March/April

FilmVirus Shorts: Wildtype 2011: March/April


สถานที่ The Reading Room, สีลม ซอย 19 (อยู่ใกล้ร้าน Milk Plus ระหว่างร้านอาหารจีนและร้านอาหารอิตาเลี่ยน-ให้สังเกตว่าอยู่ตรงข้ามร้านหนังสือ B2s)

FilmVirus Shorts: Wildtype 2011 Screenings
Sat. March 19 & 26 and Sun. April 10, Admission Free 
from 1 pm (ตั้งแต่บ่ายโมงตรงเป็นต้นไป)

The Reading Room ร่วมกับ FilmVirus เสนอโปรแกรม FilmVirus Shorts: Wild Type 2011 โดยเป็นโปรแกรมหนังสั้นไทยโดยผู้กำกับรุ่นใหม่ ที่คัดเลือกโดยกลุ่ม FilmVirus โปรแกรม Wild Type นี้จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 19 & 26 มีนาคม และวันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน
รายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ Wild Type 

FilmVirus and The Reading Room presents "FilmVirus Shorts: Wild Type 2011
a compilation of short films from independent Thai filmmakers

Screening Saturdays March 19 & 26 and Sunday April 10, from 1pm
More info on Wild Type: www.facebook.com/wildtype.filmvirus and http://wildtype.filmvirus.com/

รายละเอียดโปรแกรมฉายภาพยนตร์ Wildtype

Sat. 19 March: THE FICTION Program

มหาลัยสร้างสรรค์ (ศุภณัฐ ชัยกล้าหาญ)30 mins no Eng. subs
SUPERSTITION (สิบแสง แสงวชิระภิบาล + ปรวงศ์ บุญช่วย /2009/ไทย) 6 mins (in english)
UNTITLED (สืบแสง แสงวชิระภิบาล + ปรวงศ์ บุญช่วย /2009/ไทย) 10 mins
SOCIAL FRAGMENTS STUDIES (สืบแสง แสงวชิระภิบาล + ปรวงศ์ บุญช่วย /2009/ไทย) 7 mins
L'ESCAPE (สืบแสง แสงวชิระภิบาล + ปรวงศ์ บุญช่วย /2009/ไทย) 3 mins
Dream (ศุภสิทธิ์ เสร็จประเสริฐ) 9 mins no Eng. sub
เวลา (ศุภสิทธิ์ เสร็จประเสริฐ ) 6 mins no subs
บทกวีใบไม้แดง (พงษ์พันธ์ ยืนชีวิต) 7 mins
แสงจันทร์ (พงษ์พันธ์ ยืนชีวิต/2009/ไทย) 14 mins no sub
มีหมาป่าที่ชั้นหนังสือ (ทศพล บุญสินสุข) 14 mins
เรื่องเล่าใต้ขอบฟ้า (ฑีมะเดช วัชรธินันท์ )10 mins eng sub
เพียงหลับไหลในเงามืด (ธีรนิต์ เสียงเสนาะ)16 mins no sub
ห้องทรมาน (Torture Room ) (ปฏิภาณ บุณฑริก) 23 mins
อัญญประกาศ (ธนกฤต กฤษณะยรรยง) 21 mins
ฉากที่ไม่ปรากฏ (สรยศ ประภาพันธ์) 8 mins eng sub
รักหลับ (เกรียงไกร วัฒนานิยม + อมรชัย ศิริรัตน์) 30mins
soulmate (สมคิด ใจศรี)
คำพิพากษาของความรัก(วชร กัณหา) 24 mins

Sat. 26 March: Documentary + The Underground Office Program

บันทึกการเดินทาง (Diary of the Journey ) ปัญจะ สายทอง 15 mins
ยาพิษ 3 ปิดเทอมใหญ่ รีวิวหนัง (เอกราช มอญวัฒ)20
เพื่อนรักเพื่อนร้าย (พิเชษ เสมอเชื้อ)25 นาที no subs
EARLY RETIRED (ฐากูร เข็มปัญญา) 30 mins no sub
Me and My Video Diary (ธนิ ฐิติประวัติ) 30 mins
BLUE BLANK(วชร กัณหา) 48 mins
สุดถวิลหา(วชร กัณหา)17 mins
RESIST 58 mins
FilmVirus (วชร กัณหา + ธีรนิต์ เสียงเสนาะ)12 mins

Sun. 10 April: Political Collect Program

HAPPEN ! (ทวีวิทย์ กิจธนสุนทร) 4 mins
BANGKOK TANKS (นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์) 
แบบทดสอบวิชาการเมืองไทยร่วมสมัย (จุฬญานนท์ ศิริผล ) 8 mins 
คุณแม่อยากไปคาร์ฟูร์(นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์)
ครบรอบ 110 ปี ชาตกาล รัฐบุรุษอาวุโส ปรีดี พนมยงค์ (สรยศ ประภาพันธ์) 30 mins eng sub.
จดหมายของนายตาบอดสี (สรยศ ประภาพันธ์ ) 9 mins eng sub
กาลานุสติ (สิทธิพร ราชา)30 mins no sub
BANGKOK UFO (วินัย กิจเจริญ) 10 mins no sub
แกะแดง (สำนักงานใต้ดิน) 40 mins no sub
สมหวัง 2553 (นราชาย กัจฉปานนท์) 
ประวัติศาสตร์ย่อของความทรงจำ (จุฬญานนท์ ศิริผล) 14 mins

รสแกง (Taste of Curry) ละครรสเดือดปุด

รสแกง (Taste of Curry)

ละครอร่อย ผลงานชิ้นใหม่จากกลุ่มสาว ๆ ฝีมือเด็ดของบีฟลอร์  คนละคอนที่ไว้ใจได้เสมอ

หากทุกเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามา เป็นเหมือนเครื่องปรุง และส่วนประกอบของอาหาร….ชีวิตมีรสชาติอย่างไร มาชิมกัน
บีฟลอร์ เสนอ

“รสแกง” 
9-20 มีนาคม 2554

การแสดงที่เชิญชวนให้ผู้ชมร่วมแลกเปลี่ยนความรู้สึกและทัศนคติต่อชีวิต ผ่านการประกอบอาหาร เรื่องเล่า และการเต้นรำร่วมสมัย ชีวิตมีรสชาติอย่างไร เปรี้ยว หวาน มัน เค็มแค่ไหน มาชิมกัน
กำกับการแสดง จารุนันท์ พันธชาติ
นักแสดง
ดุจดาว วัฒนปกรณ์, อรอนงค์ ไทยศรีวงศ์, ศศพินทุ์ ศิริวานิชย์ และ นานา เดกิ้น
ออกแบบแสง วสุรัชต อุณาพรหม
ออกแบบเครื่องแต่งกาย พันธ์ชนะ สุนทรพิพิธ
ออกแบบเสียง พรชนก กาญจนพังคะ
ออกแบบกราฟฟิค เตชิต จิโรภาสโกศล
ประชาสัมพันธ์ สุวรรณา พร้อมตั้งตระกูล
ดูแลการผลิต ธีระวัฒน์ มุลวิไล

แสดงที่ เดโมเครซี่ สตูดิโอ ซอยสะพานคู่ ถ.พระราม 4 (รถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีลุมพินี ทางออก 1)
วันที่ 9 – 20 มีนาคม 2554 ทุกวัน วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 20.00 น. เสาร์-อาทิตย์ 19.30 น.
บัตรราคา 350 บาท
จำหน่ายบัตรที่ http://www.bananabooking.com
บานาน่า คอลเซนเตอร์ 080 2600771
รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อบีฟลอร์ 089 167 4039