10/3/09

Truffaut and Rivette เมื่อคนรักหนังกระทบไหล่กับคนทำหนังระดับบรมครู

ฟังเรื่องการสัมภาษณ์ผู้กำกับในงานบางกอกฟิล์มจาก filmsick แล้ว พอวันถัดมาอ่านเจออันนี้

ในสมัยหนึ่งที่ François Truffaut กับ Jacques Rivette ยังไม่อยู่ในตำนานนักทำหนังที่โลกจดจำอย่างเช่นทุกวันนี้ มีอย่างหนึ่งที่ทั้งคู่บุกเบิกไว้ที่นิตยสาร Cahiers du cinéma นิตยสารหนังเล่มประวัติศาสตร์ (ที่ปัจจุบันอายุเกือบ 60 ปีแล้ว) นั่นคือการใช้เทปอัดสัมภาณ์ผู้กำกับ

แน่นอนสมัยนี้ใคร ๆ ก็อัดเสียงสัมภาษณ์ได้ง่ายสะดวก ปัจจุบันหนังสือสัมภาษณ์คนทำหนังในเครือสำนักพิมพ์ Faber and Faber Books ก็ทำหนังสือแบบนี้มาเยอะแยะ แต่ดั้งเดิมทีเครื่องอัดเทปเสียงยี่ห้อ Grundig นั้นน้ำหนักเกือบ 9 ปอนด์ เป็นเทปเสียงม้วนกลม ๆ ที่ต้องสาวเทปเข้าม้วนเปล่าฝั่งตรงข้าม (เหมือนฟิล์มหนัง) สมัยก่อนยังไม่มีใครเคยริเริ่มใช้อัดสัมภาษณ์ศิลปินสด ๆ แบบตีพิมพ์กันยาว ๆ มีแต่เคยใช้บันทึกความเห็นดาราหรือผู้อำนวยการสร้าง แต่ยังไม่เคยมีใครสนใจมาใช้บันทึกความเห็น หรือคุยเจาะลึกเรื่องหนังกับผู้กำกับมาก่อน (ยิ่งสมัยนั้นหนังยังไม่ถูกนับเป็นงานศิลปะ คนจึงเข้าใจกันว่าผู้กำกับไม่มีเรื่องจะพูด) ฟรองซัวส์ ทรุฟโฟต์ เห็นตัวอย่างจากการสัมภาณ์วิทยุที่ Paul Léautaud ไปสัมภาษณ์นักเขียน Robert Mallet เขาเลยลองเอามาใช้บ้าง ผลก็คือบทสัมภาษณ์ผู้กำกับ Jacques Becker (ปัจจุบันนี้คนรู้จักเขาจากหนังคลาสสิกสามเรื่องคือ Casque d’ Or กับ Touchez pas au Grisbi และ Le Trou) ความยาว 12 หน้า อันเป็นบทสัมภาษณ์ระดับมาสเตอร์พีซชิ้นแรกในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1954 ซึ่งเก็บความมาจากการคุยกว่าสามชั่วโมง


แก๊งสัมภาษณ์ของสองหนุ่มที่เรียกตัวเองว่า Truffette กับ Rivaut กลายเป็นทีมคู่หู คู่สัมภาณ์ที่แยกกันไม่ออก มีผลงานต่อเนื่องมาด้วยกันหลายเล่ม ว่ากันว่าตอนแรก Jacques Becker นึกว่า สองคนนี้เป็นคู่เกย์เสียด้วยซ้ำ


ระหว่างปี 1954-1957 ทีมงานนิตยสาร Cahiers du cinéma ซึ่งรวมถึง Jean Luc-Godard และคนอื่น ๆ ร่วมกันทำบทสัมภาษณ์ผู้กำกับที่กลายเป็นครูใหญในวงการหนัง เช่น Jean Renoir, Luis Buñuel, Roberto Rossellini, Abel Gance, Alfred Hitchcock, Howard Hawks, Robert Aldrich, Joshua Logan, Anthony Mann, Max Ophüls, Vincente Minnelli, Jacques Tati, Orson Welles, Gene Kelly, Nicholas Ray, Richard Brooks, Luchino Visconti และ Fritz Lang ชึ่งผู้กำกับเกือบทั้งหมดในรายชื่อเหล่านี้ ได้กลายมาเป็นสถาบันภาพยนตร์ที่ Truffaut, Rivette และเพื่อน ๆ ร่วมปลูกฝังรากฐานการศึกษาภาพยนตร์มาจนถึงทุกวันนี้



น่าสนใจอย่างหนึ่งว่า คอหนังยุคใหม่ ๆ อาจจะมองข้ามฝีมือทำหนังของ François Truffaut ไป นึกว่า Truffaut มีแต่หนังของตายอย่าง Jules and Jim, Day for Night หรือ The 400 Blows จนลืมไปว่างานเล็ก ๆ อย่าง The Wild Child, Small Change, Two English Girls, The Man Who Loved Women และ The Green Room ก็น่าประทับใจไม่ใช่น้อย ไหนจะ Fahrenheit 451 และ The Last Metro อีกล่ะ ชวนให้นึกถึงตัวเองสมัยดูหนังใหม่ ๆ ว่าเคยตื่นเต้นกับ Godard, Rivette มากกว่า ทรุฟโฟต์ แค่ไหน เคยดูถูกว่า Truffaut สู้คนอื่นไม่ได้เพราะดัดแปลงหนังสือมาเป็นหนังบ่อย ๆ แต่ที่จริงหนังแบบวรรณกรรมของ Truffaut ก็น่าประทับใจไม่น้อย

2 comments:

celinejulie said...

หนูชอบ TWO ENGLISH GIRLS กับ THE BRIDE WORE BLACK ค่ะ

FILMSICK said...

โอวววว

หรือเรา(ผมกะเต้ ) ควรจะไปทำหนังยาวในอนาคต!

อะล้อเล่น

พูดถึงทรุฟโฟต์ ผมอาจจะเลือกดูงานของเขาผิดชิ้นก็เป็นได้ครับ