THE EMPEROR'S NAKED ARMY MARCHES ON (1987) Kazuo Hara
ขอบคุณคุณ Pichahya มาก ๆ ที่สะท้อนความคิดถึงหนังเรื่องนี้ให้อีกหลายคนได้รับทราบ ภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่งฉายไปในโปรแกรมภาพยนตร์ฟิล์มไวรัส เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ท่านสามารถติดตามชมโปรแกรมสารคดีชุดนี้เรื่องอื่น ๆ ได้ที่บล็อก ดวงกมลฟิล์มเฮ้าส์ (ฟิล์มไวรัส) DK Filmhouse:
http://dkfilmhouse.blogspot.com/2013/05/the-act-of-realities_24.html
เป็นสารคดีที่เต็มเปี่ยมด้วยความรุนแรงในระดับเดียวกับสึนามิที่ฟุกุชิมะ ดูแล้วก็ทำให้เข้าใจสัจธรรมในโลกว่าทุกประเทศมันต้องมีเรื่องบางเรื่องที่ คนนอกแตะต้องได้ แต่คนในแต่ต้องไม่ได้ อย่างที่เราเห็นในข่าวเกี่ยวกับศาลเจ้ายาซุคุนิ นั่นไง ผมเองก็ไม่เคยถามเพื่อนชาวญี่ปุ่นว่ารู้สึกยังไงที่บรรพบุรุษของคุณกระทำในสงครามโลกครั้งที่2 แต่ผมก็หยุดแค่เก็บไว้ในความคิด แต่เคนโซ โอคุซากิ ไม่เก็บความคับแค้นของเค้าไว้แค่ความทรงจำ
เคนโซ โอคุซากิเป็นอดีตนายทหารที่ถูกส่งไปประจำการที่ นิวกีนีด้วยสภาพหลังสงครามที่แทบจะเรียกได้ว่า “ไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์” ทำให้เคนโซระเบิดความคับแค้นนั้นออกมา ด้วยการขับรถที่ติดป้าย ด่า จักรพรรดิฮิโรฮิโต้ว่าเป็นพวกหน้าตัวเมีย ไร้ซึ่งความรับผิดชอบ และเป็นสมมุติเทพที่เฮงซวยที่สั่งให้ทหารหาญไปพบกับชะตากรรมที่เลวร้ายเยี่ยงนรกบนดิน เคนโซเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อถามหาความจริงด้วยวิธีที่ใครก็นึกไม่ถึง บางที่ เค้าไปหาแม่ของเพื่อนทหารที่ชรามากแล้วเพื่อจะบอกว่าเขาเองเป็นคนที่ฝั่งลูกชายท่านไว้ และสัญญาว่าจะพาไปนิวกีนีเพื่ออัญเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน บางที่เขาได้เข้าไปหานายทหารระดับผู้ใหญ่เพื่อเค้นหาความจริง ถึงนายทหารจะไม่ต้องการรื้อฟื้นความทรงจำเลวร้ายที่ผ่านมา 40 ปีแต่เคนโซก็พร้อมจะตะคอกกลับไปว่า “มึงไม่มีสิทธิจะลืม มันเป็นความทรงจำที่มึงต้องห้ามลืม!!!” แต่คงไม่มีคราวไหนที่ โหดสัสเท่าการบุกไปหา เพื่อนร่วมกองร้อยที่อาจมีส่วนเกี่ยวกข้องกับการฆ่าเพื่อนนายทหารที่ไร้ความผิดและเกี่ยวข้องกับการกินเนื้อคน เมื่อคาดคั้นด้วยคำพูดไม่ได้ เคนโซก็วิ่งเข้าไปต่อย หรือ กระทืบ ถึงในบ้านเลยทีเดียว เคนโซยอมรับแต่โดยดีว่า หลังจากกลับจากสงคราม เขารู้ตัวดีว่ามีความกึ่งดีกึ่งบ้าน ในตัวของเขา แต่เพื่อการประกาศให้โลกรู้ถึงความจริงเรื่องนี้ ความรุนแรงคือเครื่องมือสำคัญที่เขาจะใช้เค้นหาความจริงเพื่อญาติพี่น้องของเพื่อนทหารที่ตายไป
นี่คือสารคดีที่มีความรุนแรงอยู่เต็มเปี่ยมในทุกอณูทั้งในเรื่องศีลธรรม และความเข้าใจขั้นพื้นฐาน ของคนที่เกิดมาในยุค “คู่กรรม เดอะมิวสิคคัล” ความรู้สึกที่ต่อสู้ประหัตประหารกันระหว่าง ความขนหัวลุกในวิธีการของเคนโซ กับ ความเข้าใจในความเดือดดาลและกลายสภาพมาเป็น ภารกิจที่เขาต้องทำตราบเท่าที่ลมหายใจยังมี ถึงแม้เคนโซจะเป็น “ชายบ้าผู้คลุ้มคลั่งที่จะรื้อฟื้นประวัติศาสตร์ที่ชาติไม่ต้องการจำ” แต่ในสายตาของญาติพี่น้องของทหารที่ตายในสงครามเคนโซ คือผู้กล้าที่ควรได้รับการคาราวะ เป็นผู้กล้าที่ต่อสู้อย่างเดียวดาย และโดนประณามโดยลำพัง
ผมมาคิดๆดูแล้วนึกสงสัยว่า เราจะพูดได้เต็มปากไหมว่า เคนโซเป็น Activistที่ปฎิเสธรูปแบบสันติวิธี? ในสังคมที่ไม่ได้ผ่านความโหดเหี้ยมของสงคราม และก็พร่ำบอกลูกหลานว่า เราเป็นเมืองที่สงบร่มเย็น มีชาติ ศาสน์กษัตริย์ เป็นดั่งร่มฉัตรปกคลุมไปทั่วถิ่น มีพี่ทหารหาญที่เป็นรั้วของชาติและเป็นไอดอลของเด็กๆทุกยุคทุกสมัย ผมถามตัวเองว่าผมได้แง่คิดอะไรจากสารคดีที่สุดขีดของความแรง?
ผมว่า ถ้าเคนโซ เป็นคนไทย และเปลี่ยนจากนิวกีนีเป็นวัดประทุม เคนโซคงไล่กระทืบคนไทยจนเหนื่อยเพราะประชาชนส่วนมาก ในวันที่ 19 พฤษภาคม ก็ไม่ได้รู้สึกว่า ตนต้องเป็นผู้รับผิดชอบศพ ที่เกลื่อกลาดทั้งที่ราชประสงค์และในวัดประทุม แถมบางคนยังรู้สึกยินดีที่ทหาร“ทำความสะอาด” พวกควายแดงบ้าง พวกโดนทักษิณซื้อบ้าง และ คอป.ก็ยังไม่อาจให้คำตอบถึงสาเหตุการตายได้
หรือเราต้องการ เคนโซ โอคุซากิ ?
ผมเองก็เริ่มกลัวใจตัวเองแล้วเหมือนกันว่า ถ้าผมเป็นเคนโซ ผมก็จะทำ
ต่อให้ต้องยิงปืนใส่ กษัตริย์ / พระจักรพรรดิก็ตาม
ปล. เคนโซ โอคุซากิ เคยโดนจับข้อหายิงลูกเหล็กใส่องค์พระจักรพรรดิจนได้รับบาดเจ็บ
(ข้างบนคือบทวิจารณ์โดย Pichaya Anantarasate)
นี่คือ 1 ในชุดภาพยนตร์สารคดี ที่ ดวงกมลฟิล์มเฮ้าส์ (ฟิล์มไวรัส) ร่วมกับสำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จัดฉายในชื่อ THE ACT OR REALITIES
ทุกวันอาทิตย์ระหว่างวันที่ 2 มิถุนายน 2556 - 30 มิถุนายน2556 ตั้งแต่เวลา 12:30 น. เป็นต้นไป
ณ ห้องเรวัต พุทธินันท์ ชั้นใต้ดิน U2 หอสมุด ปรีดี พนมยงค์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
โทรศัพท์ 0-2613-3529 หรือ 0-2613-3530
ชมฟรี!!!(โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ห้องสมุดว่ามาชมภาพยนตร์ และกรุณาแต่งกายสุภาพ)
No comments:
Post a Comment