2/4/09

เส้นสายลายสนุกของ ลำพู กันเสนาะ

เฮฮาพี่ไทย ที่ไหน เมื่อไร ขอให้บอก
รายงานโดยสำนักข่าว Artvirus
filmvirus@yahoo.com

Non-Sense: No Nonsense
By Lampu Kansanoh
14 Jan- 22 Feb 2009

ระหว่างเครียดไม่หายกับเรื่องขโมยขึ้นบ้านตั้งแต่คืนเปิดงานมงคลของฟิล์มไวรัส (ไอ้พวกตำรวจไทยนี่มันทำงานช้าวชาม เย็นหลายชามแบบสากกระเบือ) บ่ายวันหนึ่งแวะไปหาหมอที่รพ. ธนบุรี 2 ก็เลยได้พักหัวดูอะไรแก้เซ็งบ้าง บ่ายวันนั้นที่ Ardel Gallery มันช่างเงียบเหงาจริง ไม่มีใครอื่นเลยนอกจากเงาตัวเอง จึงอยากเชิญชวนเพื่อนทั้งหลายให้ไปดูกัน

ภาพของ ลำพู กันเสนาะ อาจดูเผิน ๆ คล้ายภาพตัวการ์ตูนล้อเลียน แต่ดูไปนาน ๆ กลับมีความนุ่มนวลชวนเอ็นดูแฝงอยู่ เหมาะเหม็งเจงเปงในการส่องฟ้าเมืองไทยให้กระจ่างแจ้งในความสนุกสุดเหวี่ยง แบบสาระไม่เอา ข้าขอแค่ “โอกาสพิเศษทั้งทีต้องฉลอง” และ “ขอเต็มที่หน่อยน่า นาน ๆ ที” จะเป็นวันเกิด งานบุญ-บวช งานศพ เลี้ยงรุ่น ปีใหม่ไทย-อิสลาม-คริสต์-ญวน ข้าน้อยต้องขอเมาและสนุกกันให้มันส์ไปข้าง เรื่องพรุ่งนี้หรือความรับผิดชอบ เอาไว้ว่ากันทีหลังนะขอรับ

งานแบบนี้มีเสน่ห์กระจุ๋มกระจิ๋มในตัวมันเอง และต่างจากงานเสียดสีล้อเลียนแนวตีหัวลูบก้นหมาของ วสันต์ สิทธิเขตต์ แววตาในตัวละครของลำพูน ไม่ว่าจะเป็นเด็กแว๊น เด็กสก๊อย คนจนเครียดกินเหล้า ป้าตีแว๊ด หรือ กะเทยสุขสันต์ ในแววตาโตของเขาเหล่านั้นฉายประกายใสปิ๊งคลอเบ้าที่เชิดคางห่างจากจริยธรรมอัดเม็ดของใคร ก็พวกเขาแค่เป็นตัวเอง แม้จะเป็นในทิศทางที่เราไม่พึงใจก็เหอะ แล้วยิ่งน้ำลายยืดยาวที่ไหลย้อยขึ้นไปบนฟ้าในนิมิตมายาของชายขี้เมาคนนั้นเล่า สนุกแท้ชาวเรา เอ้า มารำกันต่อเถิดพี่น้อง เย้ เย้ เย้....

งานของ ลำพูน กันเสนาะ ซึ่งจัดแสดงที่ Ardel Gallery ยังมีสืบเนื่องไปจนถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นงานของ อารยา ราษฏร์จำเริญสุข ในวันที่ 10 มีนาคม

เว็บไซต์ของ Ardel Gallery: http://www.ardelgallery.com/

2 comments:

celinejulie said...

หนูชอบภาพของลำพู กันเสนาะมากๆเลยค่ะ รู้สึกถูกโฉลกกับภาพวาดของเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น หนูเคยเห็นภาพของเธอที่ Teo & Namfah Gallery ค่ะ

น่าเสียดายที่อาร์เดลอยู่ไกล ก็เลยคิดว่าคงไม่มีโอกาสได้ไปดูนิทรรศการของเธอในครั้งนี้

Filmvirus said...

Ardel Galllery เป็นอะไรที่แปลก ทำเลอยู่ในหมู่บ้าน สะอาดสะอ้านโล่งตา มีร้านกาแฟเล็ก ๆ น่ารักดี ถ้าจิตรและชายเอาหนังสั้นไปฉายคงประหลาดแหละ เหมือน Fitzcarraldo เอาโอเปร่าไปแสดงในป่า